เมื่อวันที่ 15ก.ค. ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายอิทธิ แจ่มแจ้ง กรรมการกองทุนไฟฟ้าพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง (ภาคประชาชน) และคณะ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 2 ชุด ได้แก่ นายวรภพ วิริยะโรจน์ รองประธานคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนในการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาหรือการฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553
เนื่องจากการรับฟังความคิดเห็นในการปรับปรุงระเบียบดังกล่าว ไม่ครอบคลุมและไม่เป็นที่รับรู้ของประชาชนส่วนใหญ่ที่มีถิ่นที่อยู่ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า เพราะ ใช้วิธีการรับฟังความคิดเห็นทางเว็บไซต์ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่ได้รับทราบถึงการแสดงความคิดเห็นนี้ และได้มีการเพิ่มอำนาจให้กับหน่วยงานราชการมากขึ้นอันจะเป็นสาเหตุให้มีการนำงบประมาณไปใช้ในส่วนราชการมากกว่าการนำมาพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ซึ่งผิดไปจากวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุน
นายอิทธิ กล่าวต่อว่า ดังนั้น คณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเขตนิคมอุสาหกรรมมาบตาพุด จึงขอให้คณะ กมธ ตรวจสอบการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นประชาชนในการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานดังกล่าวของสำนักงานกำกับกิจการพลังงาน 3 ประเด็น
ดังนี้ 1.การดำเนินการรับฟังความคิดเห็นเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ครอบคลุมพื้นที่ประกาศ และมีความชอบธรรมหรือไม่ 2.การดำเนินการแก้ไขปรับปรุงระเบียบฯ เป็นการกระทำที่ผิดเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ หรือไม่ 3.ขอให้คณะ กมธ. เชิญประธานและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะตัวแทนของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับกองทุน และเชิญภาคประชาชนเข้าร่วม เพื่อหารือและทำความเข้าใจในประเด็นข้อเรียกร้องของประชาชน
โดยทั้งกมธ. ทั้ง 2 คณะรับที่จะไปติดตามตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะ กมธ. โดยจะเชิญหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาต่อไป.
July 15, 2020 at 01:17PM
https://ift.tt/2CFQjUj
ร้องกมธ.สอบขั้นตอนปรับปรุงระเบียบคกก.กิจการพลังงาน - เดลีนีวส์
https://ift.tt/2XPOc7E
Home To Blog
No comments:
Post a Comment